ห้องเย็นจึงมีความสำคัญต่อการลดการสูญเสียหลังการเก็บเกี่ยวผลผลิตทางการเกษตร ไม่ว่าจะเป็นผักหรือผลไม้ รวมไปถึงการดูแลเมล็ดพันธ์ได้อย่างดี และเป็นองค์ประกอบสำคัญอย่างหนึ่งทางเกษตรกรรม ตั้งแต่จุดเก็บเกี่ยวจนถึงจุดของผู้บริโภคปลายทาง หรือห่วงโซ่ความเย็น (Cold Chain) วงจรหลังการเก็บเกี่ยวสามารถสรุปได้ดังนี้
• เก็บเกี่ยว
• การลดอุณหภูมิผักและผลไม้หลังการเก็บเกี่ยว (pre-cooling)
• การขนส่งและบรรจุภัณฑ์
• การจัดเก็บในห้องเย็น
• การวางสินค้าก่อนจำหน่ายถึงมือผู้บริโภค
ในระหว่างขั้นตอนต่างๆ เหล่านี้ ไม่เพียงแต่การควบคุมอุณหภูมิเท่านั้น แต่ยังต้องมีการจัดการผลิตภัณฑ์อย่างเหมาะสม ทั้งปริมาณและอุณหภูมิ รวมทั้งการจัดการ การทำความสะอาด การคัดแยก และการบรรจุ เป็นต้น
หลังจากการเก็บเกี่ยว ผลิตผลทางการเกษตรยังคง "มีชีวิต" ซึ่งหมายความว่ากระบวนการเมตาบอลิซึม เช่น การหายใจ ตลอดจนการเติบโตของจุลินทรีย์ยังคงดำเนินต่อไป ซึ่งนำไปมาซึ่งความเสื่อม และความเสียหายของผลผลิตได้ เพื่อลดอัตราการหายใจ เราจำเป็นต้องควบคุมการทำให้สุกให้ช้าลง ลดอุณหภูมิการสูญเสียน้ำ โดยหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับความร้อน และสร้างสภาวะการทำความเย็นซึ่งเพื่อเพิ่มอายุการเก็บของผลิตภัณฑ์ โดยการควบคุมอุณหภูมิในห้องเย็นสำหรับการเกษตรกรรม
● ความสำคัญและข้อดีของห้องเย็น (Cold Room) กับการเกษตรกรรม (Advantages of cold storage in agriculture)
ผลิตภัณฑ์อาหารสด อย่างผัก หรือผลไม้ มีความเสี่ยงต่อศัตรูพืชและการเน่าเสีย อย่างมาก อย่างไรก็ตาม การควบคุมอุณหภูมิและความชื้นสัมพัทธ์และการป้องกันความเสียหายต่อผลผลิตจากปัจจัยอื่นๆ สามารถเพิ่มอายุการเก็บรักษา
การเสื่อมสภาพทางชีวภาพที่เกิดจากพลังงานความร้อนที่เกิดขึ้นจากการหายใจของพืช หรือ Respiration heat, การผลิตเอทิลีน (Ethylene) C2H4 ที่มีผลต่อการสุกของผักและผลไม้ การกระทบกระเทือนระหว่างการขนย้าย ความผิดปกติทางสรีรวิทยา นำไปสู่การสลายตัว สูญเสียคุณค่าทางโภชนาการ รวมไปถึงการเปลี่ยนแปลงของสี เนื้อสัมผัส และรสชาติ
ปัจจัยที่มีผลต่ออัตราการเสื่อมสภาพ ได้แก่ อุณหภูมิ ระดับความชื้นสัมพัทธ์ ความเร็วลม บรรยากาศ เช่น ความเข้มข้นของออกซิเจน คาร์บอนไดออกไซด์ และเอทิลีน ตลอดจนระบบการดูแลสุขาภิบาล ปัจจัยส่วนใหญ่ที่ทำให้ผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรเสื่อมสภาพ ซึ่งเราสามารถแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้ผ่านการควบคุมอุณหภูมิ เช่น การทำความเย็น การลดอุณหภูมิจะลดอัตราการเปลี่ยนแปลงทางสรีรวิทยา เช่นการหายใจ การผลิตเอทิลีน และกระบวนการทางเอนไซม์ และชะลอการเติบโตของจุลินทรีย์ อย่างแบคทีเรีย/เชื้อราได้
การควบคุมอย่างพอเหมาะต่ออายุการเก็บรักษาของผลิตภัณฑ์ จะช่วยคงสภาพและ คุณค่าทางโภชนาการได้อย่างดี การลดอุณหภูมิแม้จะอยู่เหนือระดับของสภาวะการจัดเก็บที่เหมาะสมที่สุด ก็สามารถยืดอายุการเก็บรักษาได้อย่างมาก หลังจากแช่เย็น หรือ Pre-Cooling เพื่อลดอุณหภูมิของผลิตผลลงแล้ว จะต้องขนส่งและเก็บเข้าห้องเย็น เพื่อยืดอายุการเก็บรักษาและคุณภาพให้สูงสุด ควรเก็บในอุณหภูมิที่เหมาะสมในการเก็บรักษา ซึ่งจะแตกต่างกันไปตามชนิดของผลิตผลที่เก็บเกี่ยว
ปัญหาของหลายโรงงาน คือไม่มีห้องเย็นหลายห้องเพื่อแยกประเภทผลิตผลทางเกษตรกรรม เนื่องจากเอทิลีนก็ส่งผลกระทบต่ออายุการเก็บรักษาเช่นกัน พืชผลหลายชนิด มีความไวต่อการสัมผัสเอทิลีนต่างกัน หากไม่สามารถจัดเก็บผลิตผลแยกกันได้ จะต้องพิจารณาข้อกำหนดเกี่ยวกับอุณหภูมิ ความชื้นสัมพัทธ์ และการผลิต/การรับเอทิลีน โดยมีปัจจัยสำคัญอีกประการหนึ่งที่ส่งผลต่ออายุการเก็บของผลิตภัณฑ์คือระดับความชื้นสัมพัทธ์ ส่งผลกระทบต่อการสูญเสียน้ำ การเน่าเสีย ความผิดปกติทางสรีรวิทยา และความสม่ำเสมอของการสุกที่ทั่วถึง
เพื่อประโยชน์ในการจัดเก็บหรือขนส่งในระยะสั้น เราสามารถแบ่งเก็บผลิตผลทางการเกษตรไว้เป็นสามกลุ่มด้วยกัน :
• พืชผักใบเขียว ผลไม้และผลเบอร์รี่ส่วนใหญ่ในเขตอบอุ่น : 0°-2°C ความชื้นสัมพัทธ์ 90%-98%
• ผลไม้รสเปรี้ยว ผลไม้เมืองร้อนส่วนใหญ่ ผักผลไม้หลายชนิด : 7°-10°C ความชื้นสัมพัทธ์ 85%-95%
• ผักประเภทราก ผลไม้เมืองร้อนและประเภทแตงส่วนใหญ่: 13°-18°C ความชื้นสัมพัทธ์ 85%-95%
ความหลากหลายนี้แสดงถึงความท้าทายสำหรับอุตสาหกรรมการเกษตร และผู้ผลิตห้องเย็น ความพยายามในการรักษาคุณสมบัติ และคงสภาพของผลผลิตให้มีอายุยาวนานที่สุด ห้องเย็นสามารถทำหน้าที่สร้างความเย็นทางอุตสาหกรรมการเกษตรของผลิตผลเหล่านี้ได้อย่างแม่นยำ ทั้งการควบคุมอุณหภูมิ ความชื้น การหมุนเวียนของอากาศ
สรุปข้อดีของห้องเย็น (Cold Room) ในการเกษตรกรรม :
1. ยืดอายุผักและผลไม้
2. คุ้มค่า
3. การควบคุมอุณหภูมิ
4. เพิ่มพื้นที่จัดเก็บ
5. การขนส่งสินค้าทำได้ง่ายขึ้น
● ปัจจัยที่ต้องพิจารณาในการติดตั้งห้องเย็น (Cold Room)
• ที่ตั้ง : สถานที่ที่เลือกควรเข้าถึงได้ง่าย ใกล้กับศูนย์กลางการกระจายสินค้า หรือจุดผลิต และจุดรวบรวม
• ไฟฟ้า : ควรมีการเข้าถึงและการจ่ายไฟฟ้าให้กับห้องเย็นที่ได้มาตรฐาน การจ่ายไฟฟ้ามีผลกระทบต่อขนาดและอุปกรณ์ของห้องเย็น
• การระบายน้ำและการกำจัดของเสีย : ต้องมีทางเลือกในการระบายน้ำและอุปกรณ์การจัดการของเสียที่ดี
• น้ำ : การจัดหาน้ำเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการสุขาภิบาล
• สภาพเศรษฐกิจ: การเริ่มติดตั้งและใช้ห้องเย็นในแรกเริ่มจำเป็นต้องปรับการลงทุนและต้นทุนการดำเนินการ
โดยทั่วไป การเลือกเทคโนโลยีห้องเย็นที่เหมาะสมจะขึ้นอยู่กับอุณหภูมิ และทรัพยากรที่มีอยู่ รวมถึงแรงงานที่มีทักษะ ต้นทุน ไฟฟ้า และน้ำประปา เทคโนโลยีห้องเย็นที่ควบคุมง่าย มีคุณสมบัติการลดใช้พลังงาน หรือการออกแบบที่ดีจากช่างผู้เชี่ยวชาญอย่างห้องเย็น จะช่วยให้ผู้ประกอบการ หรือเกษตรกรอยู่ในจุดคุ้มทุนได้ไวขึ้นครับ
● การจัดการห้องเย็น
การควบคุมอุณหภูมิมีประโยชน์อย่างมากสำหรับการปรับปรุงอายุการเก็บรักษาและผลิตภัณฑ์ อย่างไรก็ตาม ประโยชน์จะเกิดขึ้นได้ ก็ต่อเมื่อจัดการห้องเย็นอย่างเหมาะสมโดยคำนึงถึงอุณหภูมิ ระดับความชื้นสัมพัทธ์ การหมุนเวียนของอากาศ พื้นที่เพียงพอในการจัดเก็บ และการจัดการผลิตภัณฑ์แบบ First In First Out (FIFO)
การจัดการห้องเย็นสำหรับเกษตรกรรม มีข้อพิจารณาดังต่อไปนี้ :
การจัดการอุณหภูมิ : ห้องเย็นควรถูกทำให้เย็นลงจนถึงอุณหภูมิที่เหมาะสมในการเก็บรักษาที่ต้องการอย่างน้อย 3 วันก่อนที่จะเก็บผลผลิต
อาการสะท้านหนาว หรือ Chilling Injury : ผลิตผลบางชนิด โดยเฉพาะผลไม้เขตร้อน มีความเปราะบางต่อการแช่เย็น ซึ่งอาจจะกิดความเสียหายทางสรีรวิทยา หากเก็บไว้ในอุณหภูมิที่ต่ำกว่าอุณหภูมิที่กำหนด แต่สูงกว่าจุดเยือกแข็ง โดยทั่วไป ยิ่งระยะเวลาที่ผลิตนานขึ้นซึ่งมีอุณหภูมิต่ำกว่าระดับความไวในการแช่เย็นและยิ่งอุณหภูมิต่ำลงเท่าใด ความเสียหายก็จะเกิดขึ้นเร็วขึ้นเท่านั้น
อาการทั่วไปที่สังเกตุได้จากการมองเห็น : เช่นรอยโรคที่พื้นผิว เช่นผลิตผลเป็นรูพรุน การเปลี่ยนสี เป็นต้น ที่อุณหภูมิต่ำกว่า 0°C ผลิตภัณฑ์ทุกประเภทจะแข็งตัว ความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการแช่แข็งจะมองเห็นได้ก็ต่อเมื่อผลิตภัณฑ์กลับคืนสู่อุณหภูมิที่สูงกว่า 0°C เท่านั้น
● การจัดเก็บผลิตผลทางการเกษตรที่แตกต่างกันในห้องเย็น
ผลผลิตที่แตกต่างกันมีความต้องการในการจัดเก็บที่แตกต่างกันไปตามปัจจัยต่างๆ เช่น อุณหภูมิที่เหมาะสม ระดับความชื้นสัมพัทธ์ ระดับการผลิตเอทิลีน และความไวในการแช่เย็น ดังนั้น การจัดเก็บสินค้าประเภทเดียวจึงมีความซับซ้อนน้อยกว่าการจัดเก็บสินค้าต่างประเภท นอกจากความเสียหายอันเนื่องมาจากอุณหภูมิที่ไม่ตรงกันแล้ว กลิ่นของผลิตผลยังเป็นสาเหตุที่ทำให้ผลผลิตที่แตกต่างกันได้รับผลกระทบได้ ทั้งรสชาติ และเนื้อสัมผัส
เช่นการเก็บ แอปเปิล/ลูกแพร์กับพืชผักกลิ่นแรงเช่น ขึ้นฉ่าย กะหล่ำปลี แครอท มันฝรั่งหรือหัวหอม เป็นต้น รวมถึงการแยกผลผลิตตามการผลิตเอทิลีนและผลิตภัณฑ์ที่มีความไวต่อเอทิลีน เช่น ผลไม้ที่มีการผลิตเอทิลีนสูง อย่างเช่น แอปเปิ้ล อะโวคาโด กล้วย ลูกแพร์ ลูกพีช พลัม มะเขือเทศ กับผลิตภัณฑ์ที่มีความไวต่อเอทิลีน เช่น ผักกาด แตงกวา แครอท มันฝรั่ง มันเทศ
● การดำเนินงานและการบำรุงรักษา
แรกเริ่มในการติดตั้งห้องเย็นมีค่าใช้จ่ายในการติดตั้ง และค่าใช้จ่ายด้านพลังงานสูงมากขึ้น ดังนั้นควรเปิดประตูห้องเย็นให้น้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และควรเปิดในช่วงเช้าหรือเย็น เพื่อหลีกเลี่ยงความร้อนในช่วงเวลากลางวัน และควรมีข้อปฏิบัติสำหรับการใช้ห้องเย็นให้มีประสิทธิภาพคุ้มค่ากับต้นทุน ดังนี้
• การจดบันทึก : ผู้ปฏิบัติงานควรจดบันทึกเพื่อติดตามทั้งขาเข้าและขาออก เช่นเดียวกับการผลิตที่จัดเก็บ รวมถึงเวลาที่คาดว่าจะมาถึง ปริมาณ คุณภาพ เวลาที่คาดว่าจะจัดเก็บ เงื่อนไขในการจัดเก็บที่ต้องการ ราคาขายในวันที่จัดเก็บ ราคาขายจริง พลังงานที่ใช้ไป ฯลฯ
• สินค้าคงคลัง : ควรมีการเก็บรักษาสินค้าคงคลังที่เป็นปัจจุบัน รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ภายในห้องเย็น ชนิด ปริมาณและวันที่เก็บเกี่ยวของผลิตผล การใช้วิธีการทำความเย็นล่วงหน้า วันที่ผลิตที่เข้ามาในโรงงาน ฯลฯ
• อัตราโหลด : โดยทั่วไป อัตราการโหลดควรอยู่ที่ 4-5% ของความจุทั้งหมด ห้องเย็นควรแบ่งพื้นที่สำหรับจัดเก็บระยะสั้นและระยะยาว
• สุขอนามัย : เพื่อป้องกันการสะสมของเชื้อโรคภายในโรงงาน มาตรการสุขอนามัยที่เข้มงวดเป็นสิ่งสำคัญ มาตรการสุขอนามัยทั้งหมดต้องคำนึงถึงมาตรการความปลอดภัยที่จำเป็นสำหรับพนักงานด้วย
เช่นการล้างผนังและพื้นด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ การใช้เครื่องกำเนิดโอโซนเพื่อป้องกันเชื้อราและเการระบายอากาศเป็นประจำเพื่อหลีกเลี่ยงการสร้างเอทิลีน คาร์บอนไดออกไซด์ และกลิ่นไม่พึงประสงค์
● ปัจจัยภาระความร้อนที่พิจารณาโดยทั่วไปในการออกแบบห้องเย็นคือ :
• การเพิ่มความร้อนที่ผนัง พื้น และเพดานเนื่องจากการนำไฟฟ้า
• ความร้อนที่ผนังและเพดานได้รับจากรังสีดวงอาทิตย์
• โหลดภาระความเย็น เนื่องจากการเข้าของอากาศจากการเปิดประตูบ่อยครั้ง และในระหว่างการเติมอากาศบริสุทธิ์
• โหลดจากความร้อนของสินค้าขาเข้า
• ความร้อนจากการหายใจจากผลิตภัณฑ์ที่เก็บไว้
• ความร้อนจากบุคลากรในห้อง
• โหลดภาระความร้อนพัดลมคูลเลอร์
• อายุของอุปกรณ์
ทั้งหมดที่กล่าวมา เป็นรายละเอียดเบื้องต้นสำหรับผู้ที่สนใจห้องเย็นสำหรับสินค้าเกษตรกรรม ห้องเย็นเป็นส่วนหนึ่งในการลดการสูญเสียของวัตถุดิบ ซึ่งนับเป็นต้นทุนผลิต ซึ่งไม่รวมถึงปัจจัยภายนอกอย่าง ปัจจัยทางเศรษฐกิจและสังคมที่เพิ่มปัญหาการสูญเสียหลังการเก็บเกี่ยว การขาดระบบการตลาดรับรองที่ดีพอ หรือราคาตลาดสำหรับพืชผักที่ต่ำ เป็นสาเหตุทำให้ไม่สามารถผลิตสินค้าคุณภาพสูงได้ รวมถึงความรู้เกี่ยวกับการจัดการหลังการเก็บเกี่ยวและการตลาดของเกษตรกรและผู้มีบทบาทอื่นๆ ในการจัดการผลิตผล เช่น ระหว่างการขนส่ง ที่มีข้อจำกัดมาก ซึ่งนำไปสู่การปฏิบัติที่ไม่เหมาะสมต่อผลผลิต
ห้องเย็นและห้องเย็นเป็นงานที่ใช้พลังงานค่อนข้างสูง โดยทั่วไปแล้วต้นทุนทุนและค่าใช้จ่ายในการดำเนินการของเกษตรกรในประเทศกำลังพัฒนามักสูงเกินไป ด้วยเหตุนี้ เกษตรกรรายย่อยจึงไม่สามารถเข้าถึงห่วงโซ่ความเย็นที่สมบูรณ์และการใช้ห้องเย็นที่เหมาะสมได้ สำหรับท่านที่สนใจห้องเย็นสำหรับเก็บรักษาวัตถุดิบทางการเกษตร ไม่ว่าจะต้องการพัฒนาคุณภาพอุตสาหกรรม,ธุรกิจของคุณ หรือต้องการขยายธุรกิจให้ได้มาตรฐานสากลเพื่อเพิ่มมูลค่าให้วัตถุดิบมากขึ้น
𝗔𝗖𝗥 𝗔𝗱𝘃𝗮𝗻𝗰𝗲 𝗖𝗼𝗹𝗱 𝗥𝗼𝗼𝗺 𝗹 𝗣𝗿𝗼𝗳𝗲𝘀𝘀𝗶𝗼𝗻𝗮𝗹 𝗢𝗻𝗲 𝗦𝘁𝗼𝗽 𝗖𝗼𝗹𝗱 𝗥𝗼𝗼𝗺 ยินดีให้คำปรึกษา ออกแบบ สร้าง ติดตั้งห้องเย็นในราคายุติธรรม ใช้วัสดุคุณภาพสูง ประหยัดพลังงาน เรารับสร้างห้องเย็น ในทุกอุตสาหกรรม ทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ ด้วยผนังฉนวนห้องเย็นมาตรฐาน และเครื่องทำความเย็น ACR ที่มีคอมเพรสเซอร์ทนทาน ใช้งานได้ยาวนาน ปรับแต่งได้กับทุกอุณหภูมิ ควบคุมดูแลการติดตั้งงานโครงการโดยทีมวิศวกรประสบการณ์ยาวนาน พร้อมทีมผู้เชี่ยวชาญด้านห้องเย็นคอยให้คำแนะนำและปรึกษาทั้งก่อน และหลังการขาย
Line id : @advancecool
Email : info@advancecoldroom.com
Powered by Froala Editor
อันที่จริงแล้ว หอหล่อเย็นและชิลเลอร์มีจุดประสงค์ที่คล้ายคลึงกัน ทั้งสองระบบ มีคุณสมบัติที่ทำให้กระบวนการทางอุตสาหกรรมเย็นลง เช่น กระบวนการแปรรูปอาหาร การชุบโลหะ ฯลฯ อย่างไรก็ตามก็ยังมีความแตกต่างกันในด้านโหมดการทำงาน
ACT Advance Cool Technology พร้อมแล้วกับงาน The Nova Expo 2025 ซึ่งเป็นมหกรรมด้าน Net Zero, Energy Efficiency และ Sustainable Building Solutions ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งปี
บริษัทจัดการพลังงาน หรือ Energy Service Company (ESCO) คือ บริษัทที่ทำธุรกิจให้บริการในด้านการอนุรักษ์พลังงาน ให้บริการครบวงจร โดยการให้บริการจะครอบคลุมถึง การให้คำปรึกษา
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ในการเก็บข้อมูลการใช้งาน เพื่อให้คุณได้รับประสบการณ์ที่ดี หากคุณใช้งานเว็บไซต์ต่อ เราถือว่าคุณยอมรับการใช้งานคุกกี้ และนโยบายความเป็นส่วนตัว คุณสามารถอ่านนโยบายอื่นๆได้ด้านล่าง
นโยบายเกี่ยวกับคุกกี้ ข้อกำหนดและเงื่อนไข นโยบายความเป็นส่วนตัว