วิธีการเลือกห้องเย็นที่ถูกต้องและเหมาะสมกับธุรกิจของคุณ ตอนที่ 1
การเลือกห้องเย็นให้เหมาะสมกับการใช้งาน มีหลายปัจจัยที่ต้องคำนึงถึง ไม่ว่าจะเป็นสภาพแวดล้อมต่างๆ หรือสถานที่ติดตั้งที่ อุณหภูมิที่ต้องการ รวมถึงงบประมาณและพลังงาน
หลายท่านอาจยังสับสนกับข้อมูลในหลายด้าน และยังมีข้อกังวลต่างๆ อย่างเช่น ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน ความน่าเชื่อถือ อุณหภูมิที่ใช้กับวัตถุที่ต้องการจัดเก็บ รวมไปถึงการบำรุงรักษาระหว่างการใช้งาน หากคุณต้องการห้องเย็นที่เชื่อถือได้ ทำงานได้อย่างสม่ำเสมอ และประหยัดพลังงาน ตอบโจทย์ในทุกการใช้งานของคุณ แต่ยังไม่แน่ใจว่าจะเลือก ห้องเย็นที่ผลิตและออกแบบเพื่อการใช้งานที่เหมาะสมที่สุด ได้อย่างไร
ในบทความนี้จะช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกติดตั้งห้องเย็นเชิงพาณิชย์ และห้องเย็นอุตสาหกรรมได้ตรงความต้องการ จากข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับเกณฑ์การเลือกห้องเย็นที่มีจำหน่ายในตลาดในปัจจุบัน
โดยปกติมีประเภทห้องเย็นเชิงพาณิชย์หลายประเภทใช้งานในหลายอุตสาหกรรม เช่น ห้องเย็นสำเร็จรูป ห้องเย็นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ทุกอย่างล้วนขึ้นอยู่กับความต้องการทางธุรกิจของคุณ ห้องเย็นแบบวอล์กอิน หรือแบบสำเร็จรูปจะมีขนาดเล็กกว่า และส่วนใหญ่จะเลือกใช้ในอุตสาหกรรมค้าปลีก อย่างร้านสะดวกซื้อ, ซุปเปอร์มาร์ท, โรงแรม, ร้านอาหาร ฯลฯ เพื่อจัดเก็บสินค้าที่มีอัตราการเติมชั้นวางอย่างรวดเร็ว ที่มีอุปกรณ์ใช้งานภายในแค่บุคลากร หรือรถเข็นทั่วไปเท่านั้น แต่จะไม่เหมาะสำหรับอุปกรณ์ไฟฟ้าขนาดใหญ่ เช่น รถยก
นอกจากนี้ ยังมีตัวเลือกการทำความเย็นสำหรับธุรกิจขนาดย่อมที่ไม่ได้มีวัตถุดิบจัดเก็บจำนวนมาก เช่น ตู้แช่เยือกแข็งแข็ง หรือ Blast Freezer ตู้แอร์บลาสจะสามารถลดอุณหภูมิลงต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง ได้ในระยะเวลาอันสั้นอีกด้วย
ปัจจัยที่ต้องคำนึงในการเลือกติดตั้งห้องเย็น (Cold Room)
1. พื้นที่และขนาดห้องเย็น (𝗦𝗶𝘇𝗲) :
พื้นที่สำหรับติดตั้งห้องเย็นที่เหมาะสมกับขนาดของห้องเย็น ซึ่งควรมีพื้นที่โล่งกว้างสำหรับการติดตั้ง รวมถึงพื้นที่การโหลดขนส่งสินค้าหรือวัตถุดิบที่ต้องการแช่ต้องอำนวยความสะดวกให้ทำงานได้อย่างรวดเร็ว
การเลือกขนาดที่เหมาะสมสำหรับห้องเย็นเป็นสิ่งสำคัญ ห้องเย็นที่มีพื้นที่น้อยทำให้สต็อคสินค้าของคุณแน่นหนาเกินไป ทำให้ประสิทธิภาพการระบายอากาศและการทำความเย็นลดลง ห้องเย็นซึ่งมีขนาดใหญ่เกินไปก็ยังส่งผลต่อการสิ้นเปลืองพลังงาน ดังนั้นการตัดสินใจของคุณในการเลือกห้องเย็นจากพื้นที่ ควรมีพื้นฐานมาจากข้อกำหนดเบื้องต้นในการปฏิบัติงานของคุณ เช่น ขนาดของอุปกรณ์ที่ใช้ขนส่ง เช่นรถเข็น รถยก และความรวดเร็วในการใช้สต็อกสินค้า เป็นต้น
ความจุของห้องเย็นวัดโดยพิจารณาจากพารามิเตอร์ต่างๆ เช่น ปริมาตรของผลิตภัณฑ์ ช่องว่างระหว่างผนัง เพดาน เมื่อวัดความจุของห้องเย็นแล้ว จะต้องประเมินความยาวและความสูงของห้องเย็นอีกด้วย ความสูงของห้องเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่คุณต้องพิจารณาก่อนเลือกห้องเย็น ความสูงมาตรฐานโดยทั่วไปคือ 2100 มม. หากเกินระดับนี้ อาจจะยากต่อการสินค้า หรือผลิตภัณฑ์ออกมาใช้ อย่างไรก็ตาม หากคุณมีสต็อกจำนวนมาก สามารถติดตั้งห้องเย็นที่ระดับความสูงได้
หากคุณเป็นเจ้าของธุรกิจที่มีการใช้ห้องเย็นอยู่แล้ว ก็จะทราบข้อมูลพื้นฐานได้จากการใช้สต็อกประจำวัน แต่หากเป็นผู้ประกอบการมือใหม่ ที่ต้องการมองหาห้องเย็นที่เหมาะสม สามารถติดต่อผู้เชี่ยวชาญด้านห้องเย็นที่มีประสบการณ์ จะสามารถประมาณขนาดห้องเย็นได้อย่างสมบูรณ์แบบ
รับคำแนะนำจากเราได้ที่ Line id : @advancecool
2. ต้องใช้ช่วงอุณหภูมิใด (𝗧𝗲𝗺𝗽𝗲𝗿𝗮𝘁𝘂𝗿𝗲) :
ประเภทการทำความเย็นของห้องเย็นแบ่งเป็น 2 ประเภทตามสินค้า หรือวัตถุดิบที่คุณต้องการสร้างความเย็น
ห้องเย็นแบบแช่เย็น : ใช้ความเย็นอุณหภูมิที่สูงกว่าจุดเยือกแข็ง หรือสูงกว่า 0 องศาเซลเซียส เหมาะกับผลิตผลทางการเกษตร อย่างผักผลไม้ ที่มักใช้ระยะเวลาสั้นๆ ในการเก็บรักษา หรือสามารถเก็บผลิตภัณฑ์ประเภทเนื้อสัตว์ นม อาหารทะเล ในอุณหภูมิใกล้เคียงจุดเยือกแข็ง ที่ไม่สูงเกิน 15 องศาเซลเซียส
ห้องเย็นแบบแช่เยือกแข็ง : ใช้สำหรับรักษาสภาพวัตถุดิบให้เย็นจัดจนเลยจุดเยือกแข็ง คงสภาพวัตถุดิบไว้ได้ในระยะเวลายาวนาน ให้คุณภาพใกล้เคียงกับของสดใหม่ เก็บรักษาที่อุณหภูมิต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง เช่น -15 องศาเซลเซียส
สิ่งสำคัญในการเลือกห้องเย็นคือควรรู้ว่าคุณต้องการช่วงอุณหภูมิใดสำหรับความต้องการของสินค้า และอุตสาหกรรม มีช่วงอุณหภูมิสามช่วงที่สามารถทราบได้เบื้องต้น :
• Chiller : ช่วงอุณหภูมิ +3C ถึง +12C ช่วงอุณหภูมินี้จะทำให้อาหารหลากหลายประเภทเย็นลงอย่างเพียงพอ เช่น ผัก เนื้อสัตว์ปรุงสุก โยเกิร์ต ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ นม พิซซ่า ซอส และอื่นๆ อีกมากมาย เหมาะสำหรับสินค้าที่มีเครื่องหมาย “Store Below +4C”
• Medium : ช่วงอุณหภูมิ -3C ถึง +4C ช่วงอุณหภูมินี้ใช้สำหรับปลาและเนื้อสัตว์เป็นหลัก หรือใช้ร่วมกับวัตถุดิบอุณหภูมิ Chiller โดยตั้งอุณหภูมิไว้สูงกว่า +2C
• Cooler : ช่วงอุณหภูมิ -16C ถึง -22C ช่วงอุณหภูมินี้ใช้สำหรับผลิตภัณฑ์แช่แข็งหลายประเภท เช่น เนื้อสัตว์ เนื้อปลา อาหารทะเลแช่แข็ง เป็นต้น
3. ปริมาณ (𝗤𝘂𝗮𝗻𝘁𝗶𝘁𝘆) :
ปริมาณในที่นี้ ไม่ได้หมายถึงปริมาณการจัดเก็บเพียงอย่างเดียว แต่เกี่ยวข้องถึงปริมาณการจัดส่ง นำเข้า นำออก วัตถุดิบอีกด้วย ซึ่งมักเป็นปัจจัยที่ทุกคนมองข้าม ความถี่ที่คุณได้จัดส่ง นำออกอาหารเป็นตัวกำหนดขอบเขตของห้องเย็นที่คุณต้องการ หากคุณมีการจัดส่งที่สม่ำเสมอ ห้องเย็นขนาดเล็กจะเหมาะสม หากคุณไม่มีการส่งออกนำเข้าถี่ ห้องเย็นที่ใหญ่กว่าจะมีความสามารถในการจัดเก็บการผลิตส่วนใหญ่ของคุณ
หากคุณไม่แน่ใจเกี่ยวกับมาตรการในการจัดส่งที่คุณได้รับหรือต้องการจัดเตรียมการจัดส่งของคุณ การดูค่าใช้จ่ายในการขนส่งของคุณอาจคุ้มค่ากว่า การมีห้องเย็นที่ใหญ่ขึ้นอาจช่วยให้คุณประหยัดเงินได้ในระยะยาว
4. ด้านพลังงาน (𝗘𝗻𝗲𝗿𝗴𝘆 𝗲𝗳𝗳𝗶𝗰𝗶𝗲𝗻𝘁) :
ค่าใช้จ่ายด้านพลังงานในการใช้งานห้องเย็นค่อนข้างสูง ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบต่อการเพิ่มขึ้นของพลังงานที่ใช้ในห้องเย็น ได้แก่ ไฟ LED เครื่องทำความร้อนใต้พื้น และอุณหภูมิห้องที่อยู่ติดกัน การออกแบบห้องเย็นที่ดี สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการลดใช้พลังงานได้เช่นกัน
5. ฉนวนกันความร้อน (𝗜𝗻𝘀𝘂𝗹𝗮𝘁𝗶𝗼𝗻) :
ห้องเย็นมีความหนามาตรฐาน 85 มม. ซึ่งเพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป สำหรับตัวเลือก 110 มม. วัสดุนี้เป็นวัสดุส่วนใหญ่สำหรับห้องเย็นและสำหรับสถานที่ที่มีอุณหภูมิโดยรอบสูงขึ้น แม้จะมีค่าใช้จ่ายมากขึ้น แต่การป้องกันและลดลมร้อนที่เข้ามาในห้องให้น้อยลงได้ และยังใช้พลังงานที่น้อยลงเพื่อรักษาอุณหภูมิภายในห้อง ทำให้ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานลดลงตลอดอายุการใช้งานของห้อง
6. การบำรุงรักษาระหว่างการใช้งาน (𝗠𝗮𝗶𝗻𝘁𝗲𝗻𝗮𝗻𝗰𝗲) :
เช่นเดียวกันกับธุรกิจอื่นๆ การบำรุงรักษาห้องเย็นเป็นกุญแจสำคัญในการทำความเย็นได้อย่างมีประสิทธิภาพและสม่ำเสมอของห้องเย็น ความชื้นในห้องเย็นส่งผลให้การเติบโตของเชื้อรารวดเร็วยิ่งขึ้น ดังนั้นควรมองไปถึงการจัดบุคลากร และตารางการทำความสะอาด ตรวจเช็คอุปกรณ์ของห้องเย็นอย่างสม่ำเสมอ
7. การปรับแต่งอื่นๆ (𝗖𝘂𝘀𝘁𝗼𝗺𝗶𝘇𝗲𝗱) :
คุณสามารถสั่งออกแบบ ติดตั้งห้องเย็นแบบปรับแต่งได้ตามความต้องการของคุณ เช่นในเรื่องของความสวยงามเช่น ประตูกระจก พื้น ผนังเก็บเสียง โครงชั้นวางแบบพิเศษ และอื่นๆ ก็สามารถจัดการปรับแต่งได้ แต่จะมีราคาที่สูงขึ้นกว่าห้องเย็นแบบมาตรฐาน
8. คุณลักษณะเฉพาะ (𝗙𝗲𝗮𝘁𝘂𝗿𝗲) :
เช่น ห้องเย็นที่มีเครื่องควบคุมระยะไกล หรือ Smart Cold Room หรือห้องเย็นที่สามารถเคลื่อนย้ายได้ ความสามารถในการละลายน้ำแข็งอัตโนมัติ ฯลฯ ซึ่งห้องเย็นสามารถเพิ่มคุณสมบัติได้ตามความต้องการ และยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำความเย็นให้แก่ผลิตภัณฑ์ของคุณ
9. ความน่าเชื่อถือ (𝗧𝗿𝘂𝘀𝘁𝘄𝗼𝗿𝘁𝗵𝘆) :
บริษัทรับออกแบบติดตั้งห้องเย็น สามารถพิจารณาเลือกใช้บริการได้จากปัจจัยตัวอย่างเหล่านี้ :
• การผลิตจำนวนมาก หรือผลิตห้องเย็นด้วยแบรนด์ของตัวเอง : จะช่วยลดค่าใช้จ่าย ช่วยให้การจัดส่งเร็วขึ้น และยังรวมไปถึงบริการด้านอะไหล่อื่นๆ ที่มักจะมีตามความต้องการของคุณเสมอ
• ประสบการณ์ : บริษัทติดตั้ง ออกแบบห้องเย็นที่มีประสบการณ์ยาวนาน หรือมีช่างเฉพาะทาง จะช่วยเป็นที่ปรึกษาในการแก้ไขปัญหา หรือข้อข้องใจในการสร้างห้องเย็นได้ดี ประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญ จะช่วยรับประกันได้ว่าพวกเขาจะสามารถแนะนำคุณได้ตั้งแต่ขั้นตอนแรกของการสร้างห้องเย็น ไปจนถึงคำแนะนำระหว่างใช้งานได้ดี
10. การรับประกัน (𝗪𝗮𝗿𝗿𝗮𝗻𝘁𝘆) :
คุณควรสอบถามเกี่ยวกับการรับประกันโดยผู้ผลิต ตั้งแต่การรับประกันที่ตัวห้องเย็น ไปจนถึงอุปกรณ์ที่ใช้ในห้องเย็น อย่างคอมเพรสเซอร์
การเลือกห้องเย็นเพื่อธุรกิจของคุณ นอกจากจะคำนึงถึงปัจจัยข้างต้น อย่างในเรื่องของสินค้า อุณหภูมิ สถานที่ ไปจนถึงค่าใช้จ่ายแล้ว การตรวจสอบอุปกรณ์ทำความเย็นในห้องเย็นก็เป็นเรื่องสำคัญ ที่สัมพันธ์กับประสิทธิภาพความเย็นของห้องเย็น เมื่อความเย็นของห้องเย็นไม่เป็นไปตามที่กำหนดไว้ ก็จะทำให้วัตถุดิบที่เสียหายได้ จึงจำเป็นต้องมีการจัดตาราง ตรวจสอบ บำรุงรักษาห้องเย็นอย่างสม่ำเสมอ
สุดท้ายทุกอย่างขึ้นอยู่กับความจำเป็นและความต้องการในการใช้งานของธุรกิจ และอุตสาหกรรม หวังว่าในข้อข้างต้นที่เราแนะนำไป จะช่วยให้คุณจะพอมีไอเดียคร่าวๆ เกี่ยวกับประเภทของห้องเย็นที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณ หรือได้รับแนวทางในการขอคำแนะนำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญด้านห้องเย็น ก่อนถึงขั้นตอนทำการสำรวจสถานที่ และออกแบบห้องเย็น ไปจนถึงการติดตั้งและการทดสอบอุปกรณ์ พร้อมให้คำแนะนำการใช้งานในขั้นตอนสุดท้าย
𝗔𝗖𝗥 𝗔𝗱𝘃𝗮𝗻𝗰𝗲 𝗖𝗼𝗹𝗱 𝗥𝗼𝗼𝗺 𝗹 𝗣𝗿𝗼𝗳𝗲𝘀𝘀𝗶𝗼𝗻𝗮𝗹 𝗢𝗻𝗲 𝗦𝘁𝗼𝗽 𝗖𝗼𝗹𝗱 𝗥𝗼𝗼𝗺 ยินดีให้คำปรึกษา ออกแบบ สร้าง ติดตั้งห้องเย็นในราคายุติธรรม ใช้วัสดุคุณภาพสูง ประหยัดพลังงาน เรารับสร้างห้องเย็น ในทุกอุตสาหกรรม ทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ ด้วยผนังฉนวนห้องเย็นมาตรฐาน และเครื่องทำความเย็น ACR ที่มีคอมเพรสเซอร์ทนทาน ใช้งานได้ยาวนาน ปรับแต่งได้กับทุกอุณหภูมิ ควบคุมดูแลการติดตั้งงานโครงการโดยทีมวิศวกรประสบการณ์ยาวนาน พร้อมทีมผู้เชี่ยวชาญด้านห้องเย็นคอยให้คำแนะนำและปรึกษาทั้งก่อน และหลังการขาย
Line id : @advancecool
Email : info@advancecoldroom.com
Powered by Froala Editor
